คืนที่ลืมไม่ลง

เรื่องเสียว คืนที่ลืมไม่ลง

เรื่องมีอยู่ว่า คืนสยองของ “สราลี” เสียงดังกุกกักอยู่ข้างล่างแว่วเข้ามากระทบโสตประสาทของสราลี สาวสวยวัยเบญเพส จนเธอต้องลืมตาคอยเงี่ยหูฟังสิ่งผิดปกติ…… เงียบ……… หัวคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ก็เมื่อสักครู่เธอยังได้ยินเสียงมันอยู่เลยหรือว่าเธอฝันไป ไม่น่าจะเป็นไปได้ก็ในเมื่อเสียงนั้นปลุกเธอตื่นขึ้นมาเองนี่นา สายตาเหลือบมองนาฬิกาพรายน้ำ มันบ่งบอกเวลาตี 2 กว่าๆ รอบๆตัวเธอมีแต่ความมืดเธอจึงตัดสินใจเอื้อมมือไปเปิดสวิทช์ไฟที่หัวเตียง หูยังคงคอยสดับรับฟังสิ่งผิดปกติอยู่ตลอดเวลา นี่ถ้า “ชยุตม์” สามีวิศวกรหนุ่มไม่ติดงานที่ต่างจังหวัด เธอคงนอนหลับสนิทโดยไม่ต้องกังวลต่อสิ่งใด กุก….กุก….ตึ้ก….. นั่นไง….เสียงนั้นยังดังอยู่เลย ใจคอเธอชักไม่ค่อยดีเท่าไร เธอตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำอย่างไรดี ใจหนึ่งอยากจะลงไปดูว่ามันเป็นเสียงอะไรกันแน่ แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่กล้า เพราะเธออาจจะลงไปจ๊ะเอ๋กับหัวขโมยก็ได้ แล้วเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงคนเดียวอันตรายย่อมเกิดขึ้นแน่นอน ตึ้ก…. เสียงนั้นยังคงดังเป็นระยะๆใจคอเธอชักไม่ค่อยดีเท่าไร เธอรีบเปิดเก๊ะที่หัวเตียงคว้า .38 ที่สามีมอบให้เธอไว้ ป้องกันตัวมาถือในมือก่อนที่จะสำรวจความพร้อม ที่จะใช้มันได้ทันท่วงที สามีเธอเคยบอกว่าตั้งสติให้ดี หากเกิดเหตุการณ์ ไม่คาดฝันขึ้นยิงก่อนได้เลยไม่ต้องกลัวอะไรตามรูป คดีเราย่อมได้เปรียบอยู่แล้วรู้สึกกำลังใจมาอีกเป็นกอง ชุดนอนบางเบาที่ออกจะรุ่มร่ามไปสักหน่อย ก็ไม่ได้มีปัญหาสองมือประคองปืนแล้วค่อยๆ เปิดประตูออกมาอย่างแผ่วเบา เนื่องจากเธอ กลัวว่าไอ้หัวขโมยมันจะรู้ตัวเสียก่อน ฝีเท้าอันแผ่วเบาของเธอเงียบกริบ เมื่อเธอเดินลง มาที่ชั้นล่างแสงไฟสลัวๆทำให้เธอเห็นเงาตะคุ่มๆ ของใครคนหนึ่งกำลังก้มๆเงยๆรื้อค้นข้าวของ โดยไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น สราลีรวบรวมสติสองมือประคองปืนเล็งเป้าไปที่ แผ่นหลังของมันระยะไม่เกิน 5 เมตรขนาดนี้ เธอไม่มีวันยิงพลาดเป้าเป็นแน่ แต่เธอยังไม่โหดพอที่จะฆ่าใครได้ “หยุดนะ…ไม่หยุดฉันยิง” เธอตวาดเสียงดังฟังชัดทำให้ร่างนั้นสะดุ้งยึก หยุดการกระทำทุกอย่าง “ค่อยๆ ยืนขึ้น…ชูมือด้วยอย่าลูกไม้กับฉันเด็ดขาด…..” มันค่อยๆลุกขึ้นสองมือชูเหนือหัวแสดงอาการยอมจำนน หญิงสาวค่อยๆก้าวฝีเท้าไปที่โต๊ะโทรศัพท์ ส่วนมือ ยังประคองปืนจ้องไปที่ร่างของมันจุดประสงค์ของเธอ นั้นต้องการโทรเรียกตำรวจมารับตัวมันไปดำเนินคดี ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเธอในเวลานี้ มือขวากำด้ามปืนเหงื่อซึม มือซ้ายยกหูโทรศัพท์แล้วกด 191 พริบตานั้นเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือเมื่อมีมือลึกลับ จับมันบิดจนปืนร่วงลงพื้น “ว๊าย…โอ๊ย….” เธอร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดจังหวะเดียวกัน ท่อนแขนที่แข็งแรงก็สอดล็อคคอเธอเอาไว้ทั้งที่ มือซ้ายยังคงกำกระบอกโทรศัพท์เอาไว้อย่างนั้น แถมเธอยังได้ยินเสียงแว่วออกมาอีกด้วย “สวัสดีครับผมสิบตำรวจเอกคมสันรับสายครับ…” เสียงนั้นพูดทวนอยู่หลายครั้งแต่เมื่อไม่มีผู้ตอบรับกลับ สักพักเสียงนั้นก็เงียบหายไป “อยู่เฉยๆนะมึงถ้าไม่อยากตาย” ปลายมีดขาววับถูกกวัดฉวัดเฉวียนให้เธอเห็น สราลีตกใจแทบสิ้นสตินี่มันไม่ได้มาคนเดียวหรอกรึ เธอไม่น่าพลาดเลย แล้วนี่จะทำอย่างไรดี จังหวะนั้นไอ้คนแรกที่เธอเอาปืนจ้องมันอยู่ก็ตรงรี่มาที่เธอ “ขอบใจโว้ยเพื่อน..เหี้ยกูเกือบเสร็จแน่ะ…” “เย็ดแม่ง..ทีหลังระวังหน่อยสิวะ ดีนะกูเห็นแม่งก่อนไม่งั้นมีหวังได้ติดคุกหัวโตกันบ้างหรอก” “เอาไงกับมันดีวะ…” มันปรึกษาหารือกันเบาๆปล่อยให้สราลีใจเต้นตึ้กตั้ก เหงื่อซึมออกมาจนเปียกชุ่มชุดนอนไปหมด ไอ้คนที่ล็อคคอเธอเอาไว้ถามเธอเสียงดุ “บอกมานะมึงอยู่กันกี่คน…นอกจากมึงแล้วยังมี ใครอีก….อย่าลูกเล่นนะ” “มะ..ไม่มี..อูย…อย่าล็อคคอแน่นนักสิ…ฉันหายใจไม่ออก” “ไม่มีแนะนะ…” “ไม่มี…ฉัน..ฉันอยู่คนเดียว…” “งั้นดีแล้ว…มึงพากูสองคนขึ้นไปข้างบนหน่อย..ถ้ามึงมีลูกเล่น กูฆ่ามึงแน่…” ปืนที่ตกอยู่บนพื้นถูกพวกมันใช้เป็นอาวุธมาจี้เธออีกที เธอจำเป็นต้องพามันขึ้นมาชั้นบน มันคงไม่ไว้ใจเธอ หรือไม่ก็ต้องการรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ พอมันตรวจตราไม่พบคนอื่นพวกมันก็พาเธอเข้ามา ในห้องนอนของเธอเอง แสงไฟที่เปิดไว้บนหัวเตียง ทำให้หนึ่งในสองร้องโพล่งออกมา “เฮ้ย….สวยฉิบหายหน้าโคตรหวานเลย…ไอ้เปี๊ยก มึงดูสิ…” คนชื่อเปี๊ยกที่เป็นคนล็อคคอเธอมองหน้าแล้วสำรวจเรือนร่าง “เฮ้ย…จริงด้วยโว้ย….หุ่นแม่งก็ดียังกะนางแบบเลยว่ะ” “ถ้างั้นกูว่า…เราสองคนโชคดีเสียแล้วว่ะ….” “เจ๋ง….” ไอ้หัวขโมยสองคนเหมือนถูกหวย มันพากันหัวเราะร่วน เสียงมันสร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้แก่สราลีไม่น้อย โครม…. ร่างของเธอถูกผลักจนเซแซดๆล้มโครมลงบนเตียงนอนหนานุ่ม…. “อย่านะ….พวกแกอย่าทำอะไรฉันนะ…จะเอาอะไรก็เอาไปเถอะ…ขอร้องล่ะ….ฮือๆๆ” เธอลนลาน ยกมือไหว้พวกมันน้ำตาไหลพรากหวังขอความเห็นใจ แต่ดูเหมือนจะไร้ผลเพราะพวกมันยัง ส่งเสียงหัวเราะกันไม่ขาดปาก….. “อย่าขัดขืนเลยน่าคนสวย….พี่มาเจอน้องคืนนี้…นับว่าเรามีวาสนาต่อกันนะจ๊ะ…ฮ่ะ..ฮ่ะ..” “ไอ้เปี๊ยกมึงอย่าทำให้คนสวยเขากลัวซิวะ… เราขอเขาดีๆเขาก็น่าจะให้น่า….” “เออ…จริงด้วยโว้ย….เอ้า…มึงพูดกับเธอสิวะไอ้เดช… คารมมึงดีกว่ากูนี่หว่า….” มันสองคนปรึกษาหารือกันโดยไม่สนใจหญิงสาวว่าจะรู้สึกอย่างไร ตอนนี้เธอออกอาการสั่นผวารับรู้ชะตาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอจังหวะนั้นไอ้คนชื่อเดชรูปร่างล่ำบึ้กก็กระโดดขึ้นมาบนเตียงใช้ฝ่ามือที่ทั้งหยาบกร้านทั้งแข็งแรงบีบกระโดงคางของเธอจนเธอรู้สึกปวดหนึบ “ว่าไงจ๊ะคนสวย…ถ้ายอมพวกพี่สองคนแล้วละก็…พี่รับรองว่าน้องสาวไม่เจ็บตัวแน่นอน…แถมเรายังมีความสุขกันด้วย…” มันเงียบไปสักพักเหมือนจะรอดูอาการโต้ตอบจากหญิงสาว เธอหายใจหายคอได้โล่งอกขึ้นหน่อย แต่แล้วเธอก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อมันตะคอกเสียงดัง “แต่ถ้าขัดขืน…ศพไม่สวยแน่….” “ว่าไงจ๊ะคนสวย” ไอ้เปี๊ยกสำทับอีกคน สราลีคิดหาทางออกไม่เจอใจหล่นวูบไปถึงตาตุ่ม พวกมันคงไม่ปล่อยเธอแน่หากว่าเธอขัดขืน แล้วหากถ้าเธอยอมมันล่ะ…? เธอเองก็มีสามีแล้ว แม้จะเพิ่งแต่งงานได้เพียงแค่สามเดือนและผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาไม่ถึงสิบครั้งก็ตาม อีกทั้งหญิงสาวที่เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะชาติตระกูลอย่างเธอก็ไม่เคยประพฤติตัวเหลวไหลมาก่อน แม้จะมีชายหนุ่มหมายปองเธอมากมาย…ไม่ได้เธอจะต้องซื่อสัตย์กับสามี….. แต่ถ้าเธอถูกฆ่าตายล่ะ แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา…. สู้เธออดทนยอมรับชะตาดีกว่า…เดี๋ยวเดียวมันก็ไปแล้ว…..ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม…. เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น…. แต่ว่า….. ตอนนี้หัวสมองของสราลีคิดสับสนไปหมด “ว่าไงจ๊ะ…..” “ยอม….ยอมจ๊ะ…ฉันยอมแล้ว..พี่อย่าทำอะไรฉันก็แล้วกัน..” “ได้สิจ๊ะคนสวย…” พวกมันสองคนช่วยกันจับกดเธอลงบนที่นอนชุดนอนบางเบาถูกกระชากขาดติดมือออกไปเท่านั้นเองเนื้อหนังมังสาอันอวบอัดเต่งตึงบวกกับผิวที่นวลเนียนขาวผ่อง ก็สะกดพวกมันให้ตกตะลึงพรึงเพริดไปชั่วขณะ “อู้วว…สวยจริงๆ…ขาว…ซื้ดส์….” ไอ้เปี๊ยกซู้ดปากครางด้วยความสะใจ เมื่อได้เห็นเนื้อหนัง มังสาอันงดงามสุดจะบรรยาย มันถึงกับเกือบจะสำเร็จ ความใคร่ออกมาเสียเดี๋ยวนั้น ไอ้เดชเองก็นิ่งตกตะลึงจ้องมองปทุมถันที่กลมกลึงเป็น กระเปาะพอดีมือ เม็ดจงอยปลายยอดสีชมพูระเรื่อเรียกให้น้ำลายวิ่งพล่านในปากและลำคอ ยิ่งเมื่อกวาดสายตาสำรวจลงไปยังเบื้องล่างพวกมันก็ได้พบกับความโหนกนูนได้รูปบวกกับกลีบ

มันใช้ปลายนิ้วแหวกสองกลีบของเธอให้แยกออกจากกัน แล้วปลิ้นติ่งเม็ดเนื้อส่งเข้าปากดูดเสียงดังจ๊วบ….. “อูววว..ซื๊ดดด…” ได้ผลสะโพกของสราลีเด้งดึ๋งอย่างลืมตัวพร้อมกับส่งเสียง ดูดปากครางเหมือนคนกำลังกินพริก หยาดความชื้นภายในก็พาล หลั่งทะลักออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไอ้เปี๊ยกมันไม่ได้ดูดอย่างเดียวมันยังสอดปลายลิ้นแยงเข้าไป จนสุดลึกแล้วตวัดฉกแทงเข้าแยงออกอยู่ไปมา หญิงสาวดิ้นพล่านเกิดความเสียวอย่างที่สามีไม่เคยทำให้มาก่อน ไอ้เดชเองก็ดูดหน้าอกอย่างเมามัน สร้างความกระสันให้เกิดแก่สราลี ไม่น้อยมันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง สามีของเธอนั้น ชอบความนุ่มนวลซึ่งตรงกันข้ามกับความกักขฬะของไอ้เดช “คนสวยจ๊ะ…ลองดูดไอ้ติมของพี่หน่อยเป็นไร…แล้วน้องจะชอบ” ไอ้เดชมันคุกเข่าจ่อปลายบานของมันมาจรดริมฝีกปากเรียวงามของเธอ สราลีเม้มปากแต่ไอ้เดชบีบปากจนรู้สึกเจ็บต้องเผยออ้าออกให้ไอ้เดช กดปลายหัวบานเข้ามา “น้องสาวเลียแล้วก็ดูดให้พี่ด้วย…ซู้ดด…เสียวดีจัง…อูยย….เลียอีก…. พี่ชอบ….ซี๊ดดด…ดด…” ไอ้เดชหลับตาพริ้มเมื่อปลายโดนลิ้นฉกหัวบาน สราลีซึ่งตอนนี้อารมณ์กระเจิดกระเจิงเอื้อมมือคว้าแท่งใหญ่ ของมันกำเอาไว้เต็มมือแล้วผงกหัวขึ้นอ้าปากอมหัวบาน จมหายเข้าไปในลำคอ มันกัดฟันกรอดๆ “โอวว…ซู้ดดด…” ไอ้เดชสอนให้สราลีดูดเข้าไปแล้วก็คายออกมาแล้วก็ดูดเข้าไปอีก พอคายออกมาก็ใช้ปลายลิ้นตวัดทำอยู่อย่างนั้นจนเธอเริ่มชำนาญ สราลีต้องยอมรับว่าเธอก็รู้สึกอร่อยปากอร่อยลิ้นไม่น้อย เพราะอารมณ์ของเธอถูกจุดให้ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง จากไอ้เปี๊ยกที่มันแทงลิ้นแยงรูเธออย่างเมามันนั่นเอง ครู่ใหญ่ๆเธอก็ถูกจับพลิกคว่ำให้ไอเปี๊ยกกับไอ้เดชสับเปลี่ยน ตำแหน่งกัน ไอ้เปี๊ยกมานอนหงายถ่างขาให้เธอคว่ำหน้าใช้ปาก ทำให้มัน ของไอ้เปี๊ยกยาวกว่าของไอ้เดชหัวบานจึงเข้าไปกระทบ คอหอยจนสราลีน้ำตาไหลพรากเวลาที่มันกระดกแทงใส่ปากเธอ จนเธอต้องคอยเอามือจับแท่งมันไว้ไม่งั้นมีหวังทะลุเข้าไปในลำคอแน่ๆ ส่วนไอ้เดชตอนนี้มันไปง่วนอยู่กับทางด้านหลังมันจับเธอแอ่นกระดกก้น แล้วจับถ่างขาอีกนิดหน่อยก่อนที่มันจะเอาปลายนิ้วหยาบหนาเขี่ยติ่ง เม็ดเสียวของเธออย่างสนุกสนาน มันเขี่ยอย่างเดียวไม่พอมันยังเอา นิ้วบี้อีกด้วยสราลีตัวสั่นสะท้าน “ถ่างขาออกอีกหน่อยสิจ๊ะคนสวย พี่จะเอามันใส่แล้ว” เธอทำตามที่มันบอกแล้วไอ้เดชก็ใช้มือจับสะโพกขาวกลมกลึงของเธอ รั้งไว้ อีกมือหนึ่งจับหัวบานจ่อตรงปากรูพอตรงได้ที่มันก็ออกแรงดัน เข้าไปอย่างสุดแรง “ว้าย…..โอ้ย สราลีร้องกรี๊ดออกมาลั่นห้อง สองมือกำของไอ้เปี๊ยกแน่นดิ้นพราด ตัวสั่นระริก โอ๊ววว…เบาๆสิพี่…ฉัน…ฉัน…เจ็บ….อูย..” ไอ้เดชมันไม่ฟังเสียงออกแรงดันเข้าไปอีกจนสุดมิดด้าม สราลีกลั้นหายใจน้ำตาไหลพรากไหนจะเพราะความใหญ่ของแท่ง เนื้อนั้นเล่นเอารูของเธอปริจนแทบจะฉีกขาดออกจากกัน ไหนจะเป็นความรู้สึกที่บัดนี้มีแท่งเนื้อของชายอื่นได้แทรก เข้ามาในร่างกายเธออย่างสมบูรณ์ “ทำไมรูของน้องมันฟิตอย่างนี้ล่ะ…อูยยยย..พี่ชอบเหลือเกิน…. ซื้ดด…อูยย…ดูสิมีดูดด้วย..” ไอ้เดชมันครางเสียงสั่นเมื่อมันโดนรูของหญิงสาวตอดรัดตลอดเวลา มันแช่คาเอาไว้อย่างนั้นสักพักแล้วมันเริ่มซอยก้นช้าๆ เนิบๆ สราลีน้ำตาไหลพรากสะอึกสะอื้น ด้วยความเสียวระคนปนเป กับความแสบเมื่อหัวบานของมันครูดผิวผนังถ้ำอันอุ่นนุ่ม เข้าๆออกๆแม้น้ำเมือกของเธอจะหลั่งไหลออกมาชุ่มฉ่ำ แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความตึงเปี๊ยะอยู่นั่นเอง… “ดูดของพี่ด้วยสิจ๊ะ….” ไอ้เปี๊ยกมันร้องเตือนเมื่อเห็นหญิงสาวได้แต่อ้าปากค้างเอาไว้ ตอนที่ไอ้เดชมันเริ่มโยก พอมันบอก สราลีก็หันมาสนใจกับ แท่งเนื้อของมันอีกครั้งคราวนี้เธอทั้งดูดทั้งเลียอย่างหนักหน่วง ยิ่งกว่าเก่า “อูยยย…เบาๆ…ซื๊ดดด…สงสัยจะหงี่เต็มที่ละสิถึงได้ดูดอร่อยอย่างนี้…” จริงอย่างที่ไอ้เปี๊ยกว่า สราลีรู้สึกหงี่ร่านอย่างเต็มที่เมื่อโดนบุกทะลวง ทั้งปากทั้งรูหอยด้วยสองแท่งเนื้อที่มหึมา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มลายหายไปชั่วขณะ ยิ่งเมื่อไอ้เดชมันซอยสุดอร่อยบางครั้งก็หนักแน่น บางครั้งก็ผ่อนคลาย ตัวเธอก็โยกหน้าโยกหลังเสียงดังพลั่กๆ เมื่อไอ้เดชมันอัดเข้ามาอย่างไม่ยั้ง “เยี่ยมจริงๆ คนสวย…ซื้ดดด…ทั้งฟิตทั้งตอด…อูย..พี่ไม่เคยเย่อใคร มันส์เท่านี้มาก่อนเลย…ซื๊ดด…” สราลีอยากจะบอกมันว่าเธอก็มันส์สุดๆเหมือนกันแต่เพราะความเป็น ลูกผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงดูอบรมมาอย่างดี ทำให้ต้องสงบปากสงบคำไว้ อีกทั้งปากของเธอก็ไม่ว่างเพราะไอ้เปี๊ยกมันเด้งก้นซอยปากเธอถี่ยิบ เธอเมื่อยปากจนขากรรไกรแทบค้างแต่ก็ต้องทน “กูมั่งสิไอ้เดช” ไอ้เปี๊ยกมันบอกแล้วสอดตัวมานอนหงายให้สราลีคร่อมตัวมัน เมื่อไอ้เดชถอนแท่งเอ็นออกมาดังบล๊อก ไอ้เปี๊ยกก็จับของแท่งยาวโด่เด่ ของมันให้ถูกที่ถูกทางแล้ว ไอ้เดชก็ช่วยกดสะโพกเธอลงไป “ซี๊ดดด….โอยๆๆๆๆๆๆ” “อูยย…..” ทั้งไอ้เปี๊ยกและเธอครางเกือบจะพร้อมๆกัน เธอกดลงไปจนสุดลำของมัน หัวบานเสียบเสยเกือบทะลุมดลูกมันเสียวแปล๊บจับใจ ในขณะที่เธอคว่ำหน้าประกบไอ้เปี๊ยกอยู่อย่างนั้น ไอ้เดชมันก็เข้ามาประกบ บั้นท้ายของเธอ ตอนนั้นเธอใจหายวาบเมื่อรู้สึกว่ากำลังจะโดนอัดก็อปปี้แบบ แซนวิชแล้วก็จริงอย่างที่เธอคิด เมื่อประตูหลังเย็นวาบด้วยน้ำลายที่ไอ้เดช ป้ายลงมา ต่อจากนั้นมันก็ประคองหัวบานจ่อตรงรูก้น สองมือแหวกแก้มก้น ให้ถ่างออก แล้วกดความบานเข้าใส่ “โอยยย…เอาออกไปเข้าไม่ได้…อู้วว..” เธอรู้สึกเจ็บก้นแทบพังสองมือกอดไอ้เปี๊ยกแน่นพยามจะส่ายก้นหนี แต่เธอก็ต้องกัดฟันทนให้มันดันเข้ามาจนสุด มันปวดหนึบแบบถ่วงๆ แต่พอสักพักมันก็หายไปเมื่อเธอไม่เกร็งตัว และโดนเด้งโดนโยก เสียงครวญครางดังระงมลั่นห้องไม่รู้เสียงใคร ต่อเสียงใคร “อูยย..โอวว..เสียวดีจริงๆ…ซื๊ดดด” ไอ้เปี๊ยกที่อยู่ข่างล่างละลักละล่ำ “สู้กูไม่ได้….อูยย…รูก้นเธอยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเสียอีก…กูชักชอบแล้วว่ะ.. ซื๊ดด..ดูสิ…แน่นเปี๊ยะเลย…” “ถ้างั้นมึงโยกเร็วๆสิวะ…กูอยากให้น้ำออกแล้ว…เร็วๆนะเพื่อน..” ไอ้เดชมันเป็นฝ่ายกระดกก้นแทง ส่วนไอ้เปี๊ยกมันคอยเด้งรับ เมื่อสราลีถูกน้ำหนังจากการกระแทกของไอ้เดชให้เธอแอ่นโคก โหนกเนื้อลงไป ตอนนี้สราลีไม่มีน้ำตาแล้ว เธอเองไม่เคยเจอแบบนี้ มาก่อนถึงกับเผลอสูดปากครางอย่างลืมตัว “อูยย..ไม่ไหวแล้วว…ออกแล้ว..” ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือกันและกันเต็มที่ สราลีถึงกับแอ่นตัวเชิดหน้า สูดปากกรีดร้องเสียงหลงเมื่อความรู้สึกพุ่งจื๊ดเข้ามาอย่างรุนแรง แบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อนในชีวิต น้ำเสียวของของเธอทะลัก ออกมาอย่างเอ่อล้นพร้อมๆกับอาการขมิบเกร็งอย่างรุนแรงใน ช่องทางทั้งสอง จนไอ้เปี๊ยกและไอ้เดชไม่อาจทนทานต่อไปได้อีก ต่างก็ฉีดพุ่งหยาดแห่งความเสียวออกมาอย่างรุนแรงเช่นกัน เสียงเครื่องปรับอากาศครางประสานกับเสียงลมหายใจของคนทั้งสาม สราลีนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของมันทั้งสองคน ที่กอดก่ายลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเธอ ก่อนที่จะเริ่มบรรเลงเพลง สวาทกับเธอครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับตายอดตายอยากมาชั่วชีวิต “พี่ไปก่อนนะน้องสาว…ขอบใจมากนะ….คราวหน้าเวลาผัวน้อง ไม่อยู่ พี่จะมาใช้บริการอีก” มันบอกทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากประตูไป เมื่อตอนรุ่งสางหลังจากที่มันได้ฟอนเฟ้นเรือนร่างงามของเธอมาตลอดทั้งคืน