ทีเด็ดแม่ยาย

เรื่องเสียว ทีเด็ดแม่ยาย

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับผมจริง ๆ ครับ ผมจบการศึกษาระดับ ปวส. ช่างกล ที่ต่างจังหวัด แล้วมาได้ทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครจังหวัดปทุมธานี กลับโรงงานผลิตชิ้นส่วนไมโครชิพแห่งหนึ่ง ซึ่งถ้าเอ่ยชื่อออกมา คิดว่าหลายคนคงรู้จัก

ผมชื่อ “ เต้ย” ตอนนี้อายุ 26 ปีส่วนเมียผมผมชื่อ “ น้ำตาล” อายุ 21 ปีครับ… เมื่อก่อนหน้าที่ผมได้น้ำตาลเป็นเมีย 2 ปี ผมก็รู้จักตาลที่โรงงานแห่งนี้แหล่ะครับ หลังจากเทียวไล้เทียวขื่อ เข้านอกออกในที่บ้านน้ำตาลปีกว่าๆ จนเราได้เสียกันและอยู่ด้วยกัน แม้จะไม่ได้จัดงานแต่งงานกัน แต่เราก็จดทะเบียนกัน ถูกต้องตามกฎหมาย

ก่อนหน้าที่จะจะได้เสียและ จดทะเบียนกัน ผมก็เที่ยวบ้านของตาลที่อยู่อยู่ชานเมืองรังสิตอยู่บ่อยๆ ก็ไปเจอแม่เขา (ซึ่งก็คือแม่ยายผมในปัจจุบัน) แกชื่อ “ เล็ก” หรือผมมักจะเรียกว่า “ แม่เล็ก” อายุ 42 ปี ส่วนพ่อของน้ำตาลเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุไปนานแล้ว ตั้งแต่น้ำตาลยังเล็กๆ อยู่

หลังจากที่แม่เล็กรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตาผม …. ที่เที่ยวไปเที่ยวมาที่บ้านแกอยู่บ่อยๆ และเห็นว่าผมรักลูกสาวแก (น้ำตาล) ประกอบกับน้ำตาลคงไปเล่าให้แม่ของเธอฟังด้วยว่า…. ได้เสียตัวให้ผมแล้วด้วยมั้ง? อีกอย่างที่บ้านแกก็อยู่กันแค่สองคนแม่ลูกด้วย แม่เล็กก็เลยให้ผมจดทะเบียน แล้วแล้วก็หอบผ้าหอบผ่อน ย้ายมาอยู่ชายคาเดียวกันที่บ้านด้วยเลย รวมเป็นทั้งหมดสามคน พวกเราก็อยู่ด้วยกันเรื่อยมาครับ แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

ด้วยปกติ แม่ยายผมชอบแต่งตัวมาก และดูแลรักษาเรื่องความสวยความงามอยู่เสมอ อีกอย่างแกก็ไม่ได้ทำงานหนักอะไร เนื่องจากสมบัติพ่อตาผมก่อนเสียชีวิตก็เหลือไว้ให้เยอะอยู่เหมือนกัน แม่ยายผมก็เลยยังดูสาวอีกทั้งเป็นคนพูดเก่งขี้เล่น แกมักจะตื่นแต่เช้า ประมาณตีห้ากว่าๆ ทุกวัน

ด้วยตัวบ้านที่เราอาศัยอยู่ เป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ มีสองชั้น ชั้นบนเป็นไม้ มีห้องนอน 2 ห้อง เป็นของผมกับเมียห้องหนึ่ง และของแม่ยายผมอีกห้องหนึ่ง จะมีบันไดเดินลงชั้นล่าง แต่ก่อนที่จะลงมามีประตูเหล็กดัดบานหนึ่งปิดขวางอยู่ เวลาเปิดประตูเข้าออกเพื่อลงมาทำครัวหรือเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่าง จะมีเสียงดังดังมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกเลย ถ้าตอนตีห้ากว่าๆ ได้ยินเสียงประตูเปิด แสดงว่าแม่ยายผมกำลังลงไปทำกับข้าวแล้ว

ถ้าวันไหนผมเข้าทำงานกะเช้า (เมียผมเค้ามักจะล็อกแค่เข้ากะบ่ายเพราะเป็นคนนอนดึก ไม่ชอบตื่นเช้า) ผมต้องตื่นพร้อมๆ กับแม่ยายเพื่อเดินไปอาบน้ำในห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัวที่แกกำลังทำกับข้าว บางวันถ้าแกเห็นผมยังสะลึมสะลือ ก่อนเดินเข้าห้องน้ำ แกก็จะแซวผมว่า “ เมื่อคืนหลายยกหละสิ แหม! บ้านกล้วยเชลล์ไอ้ทิด (แกมักเรียกผมไอ้ทิด)” ผมก็ได้แต่หัวเราะ เรื่องผู้สองแง่สองง่ามของแม่ยายผม…. แกเก่งครับ…. คนทั่วไปบางทีเจอเราสองคนพูดแซวกันแบบนี้ ก็อาจตกใจก็ได้ และไม่นึกว่าเราสองคนเป็นแม่ยายกับลูกเขยกัน

เหตุการณ์ไม่คาดฝันเรื่องนี้ เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว… วันนั้นเป็นวันที่แผนกเมียผมต้องเข้าทำงานกะบ่าย ส่วนผมที่เข้าทำงานกะเช้าและเลิกประมาณ 5 โมงเย็น แต่เมียผมกว่าจะเลิกงานก็สี่ห้าทุ่ม…. วันนั้นก่อนกลับบ้าน ผมแวะซดเบียร์กับไอ้ชิด เพื่อนรักที่หน้าโรงงานคนละสองขวดก่อน และกลับถึงบ้านก็ประมาณทุ่มกว่าๆ แม่ยายผมทำกับข้าวเสร็จแล้ว กำลังหอมๆ
“ เหล้าเบียร์ อยากกินมากนะไอ้ทิด เดี๋ยวนกเขาไม่คันนะ” แม่เล็กพูดแซวผมที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ เพราะแม่ยายคงเห็นผมหน้าแดงกึ่มๆ เนื่องจากกินเบียร์มา
“ โด่ตลอดเลยจ้ะแม่” ผมก็เลยสวนกลับไป ด้วยความกำลังมึนๆ ในลิสต์ของเบียร์ และอยากลองว่าแกจะเล่นด้วยไหม?!? แต่พอเห็นแกเงียบไม่ต่อปากต่อคำแล้ว ผมก็เดินเข้าห้องน้ำไป เพื่อทำธุระอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก

พอผมทำธุระในห้องน้ำเสร็จ และเดินออกมา ก็ยังเจอแม่ยายยายผมแกเตรียมสำรับกับข้าวอยู่ที่เดิม ผมก็เลยเปิดศึกประชันฝีปากกันอีกรอบ
“ หอมจังแม่” ผมแกล้งพูดแซวทีเล่นทีจริงออกไป
“ คนหรือแกงไอ้ทิด?” แม่ยายผมแกสวนกลับทันควัน
“ แกงน่ะ ที่หอม แต่คน ก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าหอมหรือเปล่า?” ผมพูดต่อปากต่อคำ ไม่ยอมลดละ ในขณะที่ตอนนั้นผมเดินอยู่ด้านหลังแกแล้ว
“ ก็ต้องลองว่ะ ไอ้ทิด” แกตอบพรางคนแกงในหม้อไปด้วย

ตอนนั้นผมก็ยืนอยู่ใกล้แม่ยายผมมากแล้ว เลยแกล้งทำจมูกฟุดฟุดสูตรหอมใกล้ๆ ผมของแกจากทางด้านหลัง ประมาณ 1 ฟุตได้ แต่ก็ตั้งใจให้มีเสียงดังให้แกได้ยิน แต่แม่ยายผมแกก็ยังทำเป็นไม่สนใจอะไร คนแกงต่อไปเหมือนเดิม

“อืมมม หอมแฮะ” ผมบอก
“ อยู่ตั้งไกล รู้ได้ไงว่าหอม?”
แม่ยายผมแกล้งสวนกลับอีกที ทำเอาผมใจกล้ามากขึ้น

คราวนี้ผมขยับเข้าไปชิด เอามือจับเอวแม่ยายผมไว้จากทางด้านหลัง เบียดลำตัวเข้าจนชิดด้านหลังแก แล้วก้มดมที่ต้นคอขาวใกล้ๆ ด้านหลังของใบหู จนได้ยินเสียงลมหายใจแรงของแม่ยาย
“ เป็นไง ไอ้ทิด?” เสียงแม่ยายถามออกมา ทั้งๆ ที่ผมยังใช้ปลายจมูกบทไซที่เดิมไม่ได้หยุด

ตอนนั้นผมไม่ตอบแล้ว ขณะที่แม่ยายผมก็เริ่มสั่นๆ เลิกคนแกง ผมยังคงไซ้ต้นคอด้านหลังแกอยู่ไปมาอย่างเมามัน ก่อนจะพลิกแม่ยายผมมาประจัญหน้ากัน แล้วเริ่มไซ้ ซอกคอด้านหน้าแกต่อ จนแกเผลอกอดผมแน่น เมื่อเห็นแกว่าอะไร ผมก็ได้ใจ ยืนกอดและไซ้ สอคอและเนินอกไปเรื่อยๆ
“ น้ำตาลล่ะ” เสียงแม่ยายผมแกถามถึงลูกสาว
“ เข้างานกะบ่าย เลิกงานก็สี่ห้าทุ่ม” ผมรีบตอบ

ตอนนี้ผมดึงตัวแม่ยายเข้ามากอดแน่นแน่นขึ้น แล้วเอาปากประกบปากแลกลิ้นกัน ผ้าถุงแม่ยายผมหลุดไปกองอยู่ที่พื้นแล้วตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้?!?
ตอนนี้ท่อนล่างของแกจึงเห็นแต่กางเกงในสีม่วงเนื้อผ้ามัน ๆ ลื่นๆ อยู่ตัวเดียว ผมดูดปากไปพราง รูปสะโพกและเลื่อนมือมารูปเป้ากางกางเกงในตัวจิ๋วไปพราง รู้สึกว่ามีน้ำแฉะออกมาแล้วแกคางซี๊ด…. เบาๆ

ผมรีบถอดกางเกงและกางเกงในของผมออก เพราะรู้สึกตึงและคจนเจ็บไปหมดแล้ว แต่ผมยังคงยืนดูดปากกันไปด้วย ก่อนที่จะกลับมาและเริ่มคเค้นหน้าอกแม่ยายไปมาจากนอกเสื้อไปด้วย จนรู้สึกว่ามันเกะกะ เลยถอดเสื้อและยกทรงของแกออกไป แล้วผมก้มลงไปดูดไซ้ หัวนมแม่ยายที่คล้อยแต่ยังสวยงามได้รูป และก็ใช้มือข้างหนึ่งช่วยบีบเค้นนมอีกข้างที่ยังว่าง
พอโดนผมทำแบบนั้น หนักเข้าๆ แม่ยายผมก็เริ่มทนเสียวไม่ไหว จนแกครางหนักขึ้นๆ และเริ่มรู้สึกว่าจะยืนไม่อยู่ อยากหาที่ยึดเกาะ จึงเอาขาข้างหนึ่งเกี่ยวพันขาผมไว้แน่น มังกรผมที่ผงาดตั้งนานแล้ว ก็เลยถูๆ ไถๆ ที่แถวๆ เป้ากางเกงในลื่นๆ ของแก มันทำให้ทั้งผมและแกยิ่งเสียวมากขึ้นไปอีก

ผมดันแม่ยายผมนั่งบนเครื่องซักผ้าที่อยู่ใกล้กัน แล้วก็บรรจงถอดกางเกงในสีม่วงที่ปิดขวางปากถ้ำสวาทวางขาอวบของแกออก

จากนั้นผมก็จัดท่าทางให้แก่นั่งอ้าขาออก ห้อยขาลงเล็กน้อย ก่อนจะจอ่อมังกรที่แข็งกำลังได้ที่ ดันเข้าไปที่ปากถ้ำสวาทที่กำลังชุ่มไปด้วยน้ำเยิ้ม ทีละนิดๆ แม่ยายผมคราง โอวววว…. เพราะรู้สึกคลับแน่นจากพงษ์ถ้ำที่ถูกทิ้งล้างมานานหลายปี

พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางหมดแล้ว ผมก็เริ่มขยับเอวยืนเด้าแม่ยายผมจนครางฟังไม่ได้ศัพท์ ผมกระแทกเข้าออกเป็นจังหวะ จนเกิดเสียงเครื่องซักผ้ากระทบฝาผนังดังดัง กึกๆ ๆ ปากผมที่ว่างอยู่จึงก้มลงมาดูดหัวนมแม่ยายไปพราง พร้อมกับเอวผมที่เด้าไปพราง อย่างเมามันส์ สักพักแกครางและเด้งสู้แรงเด้าผมอย่างแรง พร้อมๆ กับมังกรผมก็กระฉูดน้ำเข้าถ้ำสวาทของแก

ผมยังคงเสียบคาไว้ แล้วลูบไล้หน้าอกสลับจูบปากไปเรื่อยๆ จนแกพูดชมผมว่า “ เก่งจัง” แล้วก็บอกให้ผมเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับระหว่างเราสองคนเท่านั้น ผมรีบรับปาก จากนั้นเราก็พากันเข้าห้องน้ำ ไปทำความสะอาด ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำภารกิจของตัวเอง ผมก็ออกมารอรับน้ำตาลเมียผมตอนสี่ทุ่ม เพื่อกลับบ้านแม่ยายผมก็ขึ้นนอน ทำเหมือนปกติทุกอย่าง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

และล่าสุดเมื่อเช้านี้ ก่อนผมมาทำงานและเขียนเรื่องนี้ แม่ยายผมตื่นมาทำกับข้าวตอนตีห้า ผมก็ต้องตื่นมาอาบน้ำและทำงาน โดยก่อนจะลงมาอาบน้ำ ผมก็ได้ปิดประตูเหล็กดัดไว้เผื่อน้ำตาลเมียผมตื่นลงมาด้านล่างจะได้เปิดประตู และทำให้เกิดเสียงดัง ถ้าตอนนั้นผมกำลังเอากับแม่ยายอยู่ในครัว เราจะได้ ได้ยินเสียงดังนั้นก่อนที่น้ำตาลเมียผมจะลงมาเห็น

วันนี้ผมก็เอาแม่ยายผมอีกในท่ายืน แต่ผมไม่ได้เอานั่งบนเครื่องซักผ้าแบบวันแรกหรอกนะครับ เพราะกลัวมันกระแทกฝาบ้านตอนที่เรากำลังเด้ากัน เดี๋ยวเมียผมจะตื่นลงมาดู เราจึงยืนเย็ดกันในท่ายืนโยก เสียบและเด้ากันอยู่แบบนั้น แต่แม่ยายผมก็เก่งมาก เพราะตอนเราสองคนกำลังเอากัน แกจะไม่ยอมส่งเสียงครางดังออกมาเลยเพราะกลัวน้ำตาลรู้

จนทุกวันนี้ ถ้าผมต้องเข้าเวรกะเช้าเพียงคนเดียว (และเมียผมเข้ากะบ่าย) แม่ยายผมพยายามทำให้เหมือนกับแกกำลังทำกับข้าว ส่วนผมก็จะปิดประตูเหล็กดัดไว้ และก็เปิดก๊อกน้ำในครัวน้ำทิ้งไว้ ให้มีเสียงน้ำไหล ก่อนที่ผมจะเอากับแม่ยายทุกครั้ง ถ้าผมเข้าเวรกะเช้านะ……..