เรื่องเสียว ล่อพี่สาวอายุ 15 ของผม
ใครจะว่าผมอย่างไรผมก็ยอม แต่ความอยากความเงี่ยนมันไม่ปราณีใคร เรื่องที่ผมกำลังจะเล่าให้ฟังทั้งหมดเป็นเรื่องจริง และสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น เราทั้งคู่ไม่เคยเสียใจ และมันไม่เคยทำลายชีวิตของเรา มันกลับเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไปของเราเสียด้วยซ้ำ ครอบครัวผมมีฐานะดีถึงดีมาก คุณพ่อเติบโตที่เมืองนอก เป็นด็อกเตอร์รูปหล่อ และมาแต่งงานกับคุณแม่ที่เป็นคนสวยเหมือนนางฟ้า ผมและพี่สาวจึงทั้งหล่อและสวย เราเป็นพี่น้องที่น่ารักและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงเราแบบฝรั่ง แสดงความรู้สึกด้วยการสัมผัส โอบกอด หอมกันและกันอยู่เสมอ พี่วาด อายุมากกว่าผม 3 ปี พี่วาด อยู่โรงเรียนหญิงล้วน ผมก็อยู่โรงเรียนชายล้วนชื่อดังย่านเทเวศ โรงเรียนของเรารั้วติดกัน ตอนเด็กๆ หลังเลิกเรียนพี่วาดจะมาดูแลผมที่โรงเรียน ก่อนที่คุณแม่จะมารับกลับบ้าน ซึ่งจะมีเด็กหนุ่มในโรงเรียนมาจีบเป็นประจำ เรามีพี่เลี้ยงอยู่หนึ่งคนชื่อพี่นัส เป็นคนขาว เป็นญาติห่างๆทางคุณแม่ เธอหน้าตาดี อายุแก่กว่าพี่วาด 3 ปี
เธอมาอาศัยอยู่บ้านของผมเพื่อเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ และก็ช่วยเป็นพี่เลี้ยงผมกับพี่วาดไปในตัว ช่วง ม.1 ผมเริ่มเป็นหนุ่ม เริ่มสนใจเรื่องเพศตรงข้าม ผมจะชอบแอบดูพี่นัสอาบน้ำอยู่เป็นประจำ จนวันหนึ่งพี่วาดมาพบเข้า ผมตกใจมากกลัวว่าพี่วาดจะเอาไปฟ้องคุณแม่ แต่วันนั้นพี่วาดกลับไม่ว่าอะไร กลับมาแย่งผมแอบดูอีกต่างหาก ตั้งแต่นั้นมาผมกับพี่วาดจะแอบดูพี่นัสอาบน้ำเป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่งผมมาแอบดูพี่นัสอาบน้ำอยู่คนเดียว วันนั้นพี่นัสทำสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน เธอกำลังช่วยตัวเอง เธอพิงฝาผนังห้องน้ำห่างจากรูที่ผมแอบมองไม่ถึงคืบ เธอยกขาพาดโถส้วม ทำให้รูนั้นอยู่ใต้หว่างขาเธอพอดี เธอใช้นิ้วสอดลูบไล้รูก้นลากผ่านมาถึงรูเสียว เธอดันนิ้วเข้าไปจนสุด น้ำของเธอเยิ้มตามนิ้วออกมาทุกครั้งที่เธอขยับออกมา ผมเสียวมาก รูที่ผมแอบดูนั้นอยู่ในห้องเก็บของติดกับห้องน้ำ ผมดึงกางเกงลงแล้วสาวน้องชายของผมไปตามจังหวะของพี่นัส พี่นัสเร่งความเร็วจนสะท้านไปทั้งตัว
ผมเห็นรูก้นพี่นัสขมิบเป็นจังหวะอย่างชัดเจน ถึงตอนนั้นเจ้าน้องชายของผมก็พ้นน้ำลายลงไปเต็มพื้นไปหมดแล้ว ขณะที่ผมกำลังเรียบอาวุธ ผมก็เหลือบไปเห็นพี่วาดยืนอยู่หน้าประตู พี่วาดสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังวิ่งขึ้นบ้านไป สองสามวันนั้นผมกับพี่วาดพยายามหลบหน้ากัน ผมคิดว่าพี่วาดคงโกรธที่เห็นผมทำแบบนั้น วันเสาร์ถัดมาซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะไปทำงาน ระหว่างที่เรารับประทานอาหารกลางวันกันสองคน พี่วาดก็เอ่ยถามผมขึ้นมา “น้องวุธเคยแอบดูพี่อาบน้ำหรือเปล่า” ผมได้แต่อ้ำอึ้งพยักหน้ารับ พี่วาดทำหน้าโกรธ แล้วถามต่อ “แล้วเธอเคยทำอย่างวันที่พี่เห็นเธอแอบดูพี่นัสวันนั้นหรือเปล่า” ผมได้แต่นั่งนิ่งไม่กล้าตอบ “วุธ เราเป็นพี่น้องกันนะ” พูดจบพี่วาดก็วางช้อน เดินหนีผมกลับขึ้นห้องไปทันที ผมเสียใจและแคร์ความรู้สึกของพี่วาดมาก ผมตามขึ้นไปง้อพี่วาด ตอนนั้นพี่วาดนอนคว่ำหน้าอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ผมแกล้งไปนอนทับพี่วาดเหมือนที่เคยง้อพี่วาดทุกครั้ง “เราเป็นพี่น้องกันนะ” พี่วาดพูดขึ้นอีก “ก็ผมรักพี่วาดไง”
ผมพูดออกไปแต่ความหมายไม่ได้มีเพียงแค่นั้น และคำพูดประโยคนั้นดูเหมือนจะสลายกฏเกณฑ์ต่างๆไปได้ในทันที อารมณ์ที่เคยต้องเก็บกดปิดบัง บัดนี้ไม่จำเป็นอีกแล้ว ผมกอดพี่วาด เนื้อตัวเราสัมผัสกัน น้องชายของผมเริ่มแข็งเป็นท่อนไม้ โดยผมไม่พยายามข่มมันไว้เหมือนก่อน มันเลื้อยไปตามร่องก้นของพี่วาด พี่วาดปิดหนังสือ แกล้งนอนเหมือนทุกครั้งที่ผมไปง้อเธอ ผมไม่สนอีกแล้ว ผมจูบไปที่ใบหู มือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อของพี่วาด เธอไม่ขยับหรือขัดขืนผม ทำให้ผมย่ามใจ ปลดตะขอ บราตัวน้อยของเธอ ผมค่อยๆดึงเสื้อเธอขึ้นไปจนถึงรักแร้ บรรจงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง มือล้วงไปสัมผัสกับเต้านมขนาดกระทัดรัด ของ ”พี่สาวอายุ 15 ของผม” ผมดึงกางเกงยืดของพี่วาดลง จนเผยให้เห็นแก้มก้นขาวนวลมีขนอ่อนสะท้อนแสงแดดเป็นสีเงิน ผมอดไม่ได้ที่จะแนบแก้มลงไปเคล้าคลึงผิวนวล ผมจับขาของพี่วาดถ่างออกเล็กน้อย พอให้จมูกและลิ้นของผมได้ขยับบ้าง กลิ่นสาวแรกรุ่นคลุกลุ่นน่าดอมดม ผมตวัดลิ้นลิ้มรสน้ำค้างที่รินไหลออกมาอย่างมากมาย พี่วาดยังคงนิ่งไม่ไหวติง ผมล้วงนิ้วไปตามร่องก้นจนถึงร่องเสียวของพี่วาด ซึ่งมีน้ำชุ้มชื้นไปหมด ระหว่างที่ผมกำลังจะสอดนิ้วเข้าไปยังแหล่งที่มาของน้ำนั้น พี่วาดก็ผลีผลันหมุนตัวลุกขึ้น “เราเป็นพี่น้องกันนะ วุธ”
ผมจึงตอบไปอีกครั้งว่าผมรักพี่วาดนะครับ ผมผวากอดพี่วาด บรรจงจูบปากอย่างดูดดื่มและอบอุ่น พี่วาดผ่อนคลายและล้มตัวลงนอนตามแรงผลักของผม เสื้อผ้าของพี่วาดและผมหลุดออกหมด ผมใช้ลิ้นไปทั่วเรือนร่างพี่สาวอายุ 15 ของผม ไม่เว้นแม้ของสงวนของเธอ ซึ่งมีเส้นไหมเส้นเล็กตรง ยังไม่หยิกงอเรียงตัวไปตามร่องน้ำ ที่ฉ่ำไปด้วยความรู้สึกเต็มที่ในอารมณ์ ผมบรรจงลากลิ้นไปตามร่องน้ำนั้น กลิ่นหอมของพี่สาวอายุ 15 ของผมสร้างความรู้สึกให้ผมสุดที่จะทานทน ผมขยับขาของพี่วาดออกและแทรกตัวเข้าไป แล้วผมก็พยายามเอาน้องชายของผมไปจ่อตรงร่องนั้น พี่วาดลืมตาขึ้น ห้ามผมด้วยน้ำเสียงเหมือนจะหมดลม พยายามถอยสโพกหนี ผมทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วครับ ผมค่อยๆดันมันเข้าไป ทั้งที่ยังมีน้ำรักอยู่เต็มไปหมด แต่มันกลับเข้าไปได้นิดเดียว ผมพยายามดันมันเข้าไปอีกครั้ง พี่วาดสะดุ้งลืมตาขึ้นและพยายามดันหน้าอกผมออก “พี่เจ็บนะ วุธ พี่เจ็บ” เสียงพี่วาดเหมือนคนป่วย
ผมไม่พูดไม่จา ก้มลงจูบปากพี่วาดแทน พี่วาดผ่อนคลายอีกครั้ง ผมถือโอกาสนี้ดันน้องชายของผมเข้าไปสุดแรง พี่วาดดันหน้าอกผมออกอย่างแรง แต่ไม่ลืมตา จิกเล็บลงบนต้นแขนผมจนเจ็บ ผมเริ่มขยับซ้ายขวาอย่างแผ่วเบา จนพี่วาดผ่อนคลาย ผมจึงเริ่มขยับเข้าออกเบาๆ แล้วค่อยๆเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ พี่วาดเริ่มหายใจลึกสลับกับหายใจสั้นๆ สักพักพี่วาดก็ผวากอดผมแน่น เสียงหายใจเหมือนจะขาดใจ ภายในพี่วาดบีบรัดน้องชายของผมแนนบีบรัดเป็นจังหวะถี่ๆ จนผมเสียวมาก “พี่วาดผม…..” ผมปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างใส่พี่วาดอย่างพรั่งพรู เรานอนหายใจแข่งกันอยู่พักใหญ่ พี่วาดลืมตามองผม “ผมเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ” ก่อนที่เธอจะกอดผมแน่นอีกครั้ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเลื่อยๆ ต่อมาอีกเสมอๆ
เมื่อเรามีโอกาส ผมรักพี่วาด พี่วาดก็รักผม จนกระทั่งเธอไปเรียนต่อเมืองนอก เธอแต่งงานที่นั่น มีลูกน่ารัก และผมก็ดีใจที่มีเธอเป็นพี่สาวที่ผมรัก แม้จะแต่งงานแล้ว เมื่อลับตาคน เราก็มักแอบกอดจูบกันตามประสาพี่ๆน้องๆเสมอ(เพียงแค่นั้น) เราไม่เคยรู้สึกผิด เราไม่เคยเสียใจ เรารู้ว่ามันเป็นธรรมชาติ และมันทำให้เรารักกันมากขึ้น และคงไม่มีใครรักพี่สาวตัวเองเท่าผมอีกแล้ว…